ซีรีส์เกาหลี Joseon Exorcist [ รีวิว ]

เมื่อครั้งที่ เจ้าชายอีบังวอน แห่งราชวงศ์โชซอน ได้เสด็จออกลาดตระเวนทางตอนเหนือของอาณาจักร ต้องเผชิญหน้ากับวิญญาณชั่วร้ายที่หวังจะครอบงำมนุษย์ แต่พระองค์สามารถต่อกรสกัดกั้นและปิดผนึกสิ่งชั่วร้ายเอาไว้ได้อย่างทันควัน

เมื่อทรงเสด็จพระราชดำเนินกลับมา พระองค์รับสถาปนาขึ้นครองราชย์กลายเป็น กษัตริย์แทจง พระราชที่ทรงพลังของแผ่นดิน พระองค์รู้สึกภาคภูมิใจกับการได้ช่วยพระบิดาในการก่อตั้งราชวงศ์โชซอนให้เป็นรูปเป็นร่างและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น แม้ว่าพระองค์จะรู้สึกเสียพระทัยกับเหตุการณ์ในอดีต ที่ต้องเข่นฆ่าผู้คนจำนวนมาก เพื่อแลกกับสิ่งที่เป็นอยู่ในวันนี้

และในบัดนั้น...วิญญาณร้ายที่พระองค์เคยปิดผนึกสกัดกั้นเอาไว้ได้หลุดออกมา กลับมาคืนชีพในโชซอนอีกครั้ง และมันกำลังคุกคามราษฎรไปทั่วผืนแผ่นดิน ทำให้ องค์ชายยางนยอง กับ องค์ชายชุงนยอง มกุฎราชกุมารในพระองค์ต้องยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือในการปกป้องบ้านเมืองในครั้งนี้

องค์ชายยางนยอง พระโอรสองค์โตที่เต็มใจที่จะเข้าจัดการเรื่องนี้ เพื่อหวังจะให้พระบิดาได้มองเห็นพระองค์และจดจำพระองค์ในฐานะรัชยาทที่พึ่งพาได้ พิสูจน์ให้เห็นว่าพระองค์มีดีและสามารถสืบทอดบัลลังก์ได้ ไม่ต่างกับคุณงามความดีของ องค์ชายชุงนยอง ที่มักจะได้ดีกว่าพระองค์เสมอๆ และความทะเยอะทะยานและความโลภนี่เอง ได้ทำให้องค์ชายยางนยองได้ดำดิ่งติดบ่วงของเหล่าวิญญาณร้าย

เมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันกับ องค์ชายกังนยอง โอรสองค์สุดท้องในกษัตริย์แทจง ทำให้องค์ชายได้รับบาดเจ็บแสนสาหัส พระองค์จึงได้ให้กักตัวองค์ชายน้อยเอาไว้ พร้อมกับมีพระบรมราชโองการให้ องค์ชายชุงนยอง เสด็จแทนพระองค์ไปยังเมืองอึยจู เพื่อเข้าพบกับบาทหลวงที่เดินทางมาเยือน ในขณะเดียวกัน องค์ชายยางนยอง ทรงพระโกรธดั่งเพลิงกาลต่อเสด็จพ่อ ที่ไม่เหลียวแลและถูกมองข้ามไป

องค์ชายชุงนยอง ต้องตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตระหว่างเดินทางมาถึงเมืองยอกัก ท่ามกลางช่วงเวลาที่ดูเหมือนจะสิ้นหวังแต่ดูเหมือนจะเกิดปาฏิหาริย์ขึ้น ในขณะเดียวกัน กษัตริย์แทจง ได้เสด็จมาถึงวังหลวง หลังพบว่าผนึกที่ปิดกักขังอาซาเซลเอไว้ถูกเปิดออก เขาเป็นกังวลว่าปีศาจร้ายจะหลุดเล็ดลอดออกมาได้หรือไม่ ทางฝั่ง องค์ชายยางนยอง ก็ออกตามหาใครสักคนหนึ่งอยู่ และเหมือนว่าเขาจะได้พบว่าความจริงที่น่าตกใจ

 เพียงแค่ Joseon Exorcist ออกอากาศตอนแรกก็เกิดข้อถกเถียงในชุมชนออนไลน์ขึ้นมากมายด้วยฉากที่เต็มไปด้วยการตกแต่งสถานที่และอาหารสไตล์จีน รวมไปถึงการบิดเบือนประวัติศาสตร์ในสมัยราชวงค์โชซอน

ฉากที่มีดราม่าเรื่องความเหมือนจีนเกิดขึ้นก็คือ ฉากเลี้ยงอาหารล่ามกับนักบวชชาวตะวันตก ซึ่งอาหารบนโต๊ะ ก็เป็นอาหารสไตล์จีนมากมาย อย่างเช่น ขนมไหว้พระจันทร์ เกี๊ยว รวมไปถึงเหล้าบนโต๊ะที่มีตัวอักษรสีแดงเขียนเป็นตัวอักษรจีน “酒” (อ่านว่า จิ่ว แปลว่า เหล้า) และยังมี 피단 หรือไข่เยี่ยวม้าวางอยู่บนโต๊ะ ซึ่งยังไม่เคยปรากฎในละครประวัติศาสตร์เกาหลีเรื่องใดมาก่อน

ในฉากเดียวกันนี้ นอกจากเรื่องอาหาร การตกแต่งสถานที่ (หอนางโลม) โต๊ะ ก็ยังดูเหมือนสไตล์จีนด้วย ทั้งที่เหล่านางโลมก็แต่งชุดฮันบก

ไม่เพียงเท่านั้น แม้แต่การแต่งตัวและทำผมของตัวละครในเรื่อง ก็ถูกหยิบยกมาเป็นประเด็นด้วย โดยมีการเอาภาพซีรีส์ย้อนยุคจีนในปี 2019 มาเปรียบเทียบเสื้อผ้าและทรงผมของตัวละครในเรื่อง Joseon Exorcist ปี 2021 ซึ่งก็พบว่า มีความคล้ายคลึงกันเป็นอย่างมาก

มาถึงประเด็นเรื่องการบิดเบือนประวัติศาสตร์หลายอย่าง หลักๆ ก็คือเรื่องการอ้างอิงบุคคลในประวัติศาสตร์จริงในยุคโชซอนและเขียนบทไม่ตรงกับความเป็นจริง

ตัวละครหลักอย่าง พระเจ้าแทจง กษัตริย์ลำดับที่ 3 แห่งราชวงค์โชซอน ที่รับบบทโดย คัมอูซอง ได้ถูกเขียนบทให้ป้องกันประเทศด้วยการฆ่าผีดิบมากมาย แต่กลับเกิดอาการหลอนเห็นภาพพ่อตัวเองที่ตามหลอกหลอนเรื่องการฆ่าน้องชาย และได้ทำการไล่ฆ่าประชาชนผู้บริสุทธิ์ไปเป็นจำนวนมาก

โดยตามประวัติศาสตร์จริง ก่อนจะขึ้นครองราชย์เป็นพระเจ้าแทจง มีพระนามเดิมว่า องค์ชายอีบังวอน ซึ่งองค์ชายได้ทำการเข่นฆ่าพี่น้องจริง เนื่องจากเป็นคนที่มีความสามารถและมีคุณงามความดีในช่วยเหลือพระบิดาเรื่องการก่อตั้งราชวงค์ใหม่ (โค่นล้มราชวงค์โครยอ แล้วตั้งราชวงค์โชซอน) แต่กลับไม่ได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาท ซึ่งภายหลังการปกครอง พระเจ้าแทจงก็ได้สร้างคุณงามความดีไว้มากมาย

ไม่ว่าจะเป็นการเปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่ทั้งหมดจนกลายเป็นรากฐานสำคัญของอาณาจักรโชซอน, การนำเงินกระดาษมาใช้เป็นครั้งแรก, การส่งเสริมลัทธิขงจื้อใหม่, การปราบทุจริตขุนนางที่ฉ้อฉลจนทำให้มีรายได้ของราชสำนักเพิ่มขึ้นเป็น 2 เท่า, ทำการสำรวจสำมะโนประชากรเป็นครั้งแรก รวมถึงการเปิดให้ชาวบ้านมาร้องเรียนได้โดยตรงหากได้รับความเดือดร้อนจากการกระทำของขุนนาง

ดังนั้น การนำบุคคลในประวัติศาสตร์จริงมาบิดเบือนดังกล่าวจึงเป็นที่มาส่วนหนึ่งของดราม่าที่เกิดขึ้น

ใน EP2 ของ Joseon Excorcist ก็ยังมีบางส่วนในเนื้อหาที่เป็นประเด็นอีก อย่างเช่นการดูถูกนายพลชเวยอง ซึ่งถือเป็นขุนพลคนสำคัญในช่วงปลายสมัยราชวงศ์โครยอ และเรื่องราวบิดเบือนอื่นๆ อีก

ตามประวัติศาสตร์จริงนั้น องค์ชายชุงนยอง ที่รับบทโดย จางดงยุน นั้น ต่อมาจะได้ก้าวขึ้นเป็น พระเจ้าเซจงมหาราช ที่ประชาชนเกาหลีใต้ให้การนับถือเป็นอย่างมาก ด้วยคุณงามความดีที่พลิกประวัติศาสตร์ด้วยการสร้างตัวอักษรเกาหลีขึ้นใช้เองแทนการใช้ตัวอักษรของจีน และยังประดิษฐ์ที่มีประโยชน์ต่างๆ ขึ้นอีกมากมายจนได้รับการยกย่องให้เป็นกษัตริย์มหาราช แต่ในซีรีส์ตอนที่ยังเป็นองค์ชายกลับมีหน้าที่เพียงการติดต่อกับหมอผีตะวันตก (ซึ่งแน่นอนว่าไม่มีเรื่องนี้อยู่ในประวัติศาสตร์)

เรื่องราวดราม่าไม่ได้เป็นแค่การวิพากษ์วิจารณ์ในชุมชนออนไลน์เท่านั้น แต่ยังมีเนติเซนบางส่วนได้ร้องเรียนในยกเลิกการออกอากาศไปบนกระดานข่าวของสำนักงานประธานาธิบดี (บลูเฮาส์) ซึ่งมีผู้ร่วมร้องเรียนมากถึง 199,053 ราย

นอกจากนี้ยังมีการร้องเรียนเรื่องเดียวกันนี้ไปยังคณะกรรมการมาตรฐานการสื่อสารของเกาหลีใต้อีกด้วย (เมื่อเทียบในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมา ถือว่ามีจำนวนการร้องเรียนมากเป็นประวัติการณ์)

เมื่อมีเรื่องดราม่าเกิดขึ้น ทางทีมผู้ผลิตก็ได้ออกมากล่าวขอโทษอย่างเป็นทางการในวันที่ 23 มีนาคม โดยให้เหตุผลว่า หอนางโลมที่เห็นตั้งอยู่ใกล้ชายแดนหมิง จึงได้มีการจัดเตรียมอุปกรณ์ประกอบฉากด้วยจินตนาการว่าชาวจีนจะต้องแวะเวียนมาในบริเวณนี้

ถึงกระนั้นเนติเซนยังวิพากษ์วิจารณ์ไม่หยุด และอยากให้ซีรีส์เรื่องนี้เปลี่ยนชื่อจาก Joseon Exorcist เป็น Chinese Exorcist ไปเลย

บางส่วนอยากให้ซีรีส์ย้อนยุคแฟนตาซี แต่งเนื้อหาและตัวละครขึ้นมาใหม่โดยไม่อิงประวัติศาสตร์จริง

ด้านพีดีก็ได้ออกมากล่าวขอโทษโดยระบุว่า “ผมต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้เกิดความเข้าใจผิดและไม่สบายใจในเรื่องอุปกรณ์ประกอบฉากที่เป็นศิลปะจีน”

ด้านสถานีโทรทัศน์ช่อง SBS ผู้ดำเนินการออกอากาศก็ได้ออกมาชี้แจงในเรื่องนี้เมื่อวันที่ 24 มีนาคมว่า “การที่เรากล่าวถึงบุคคลจริงในประวัติศาสตร์ เราควรจะตรวจสอบและดูแลจัดการพวกเขาอย่างละเอียด เราต้องขออภัยอย่างสุดซึ้งต่อผู้ชมที่ไม่ได้ทำเรื่องดังกล่าว”

ทีมผู้ผลิตออกมายืนยันว่าจะแก้ไขฉากที่มีประเด็นในการออกอากาศย้อนหลัง รวมไปถึงที่ส่งไปให้ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งเจ้าต่างๆ และจะงดออกอากาศ 1 สัปดาห์ เพื่อดำเนินการแก้ไขที่ถ่ายทำไปแล้วด้วย

นอกจากจะถูกดราม่าในซีรีส์เรื่องนี้แล้ว นักเขียนบท พัคกเยอ๊ก ยังก่อให้เกิดความขัดแย้งเกี่ยวกับการบิดเบือนประวัติศาสตร์ของเขาในผลงานก่อนหน้า นั่นก็คือซีรีส์เรื่อง #MrQueen ทางช่อง tvN ที่มีการกล่าวอ้างถึงบุคคลจริงในประวัติศาสตร์และก็เขียนออกมาไม่ตรงกับความเป็นจริงเช่นเดียวกัน

เมื่อมีประเด็นดราม่าเกิดขึ้นมากมาย (รวมถึงเนติเซนประกาศแบนสินค้าที่ลงโฆษณา) ทำให้เกิดความเคลื่อนไหวจากบริษัทที่ลงโฆษณาที่ดำเนินการถอดโฆษณาออกไปทีละรายรวมแล้วเกือบ 20 บริษัท กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดในเรื่องนี้ เพราะรายได้หลักของการผลิตซีรีส์มาจากการลงโฆษณา (นอกจากนั้นก็มีการขายลิขสิทธิ์)

มีข่าวลือด้วยซ้ำว่า ซีรีส์เรื่องนี้ได้รับทุนสร้างจากจีน เพราะในระยะหลังซีรีส์เกาหลีมีการแฝงโฆษณาจากจีนมากมาย ตัวอย่างเช่นในซีรีส์ Vincenzo และ True Beauty แต่ก็มีการออกมาปฏิเสธว่าไม่เป็นความจริง

ในช่วงบ่ายของวันที่ 25 มีนาคม ได้มีการเผยแพร่ข่าวเรื่องพีดีแจ้งยุติการออกอากาศ เพราะบริษัทโฆษณาถอนตัวเกือบ 20 บริษัทแล้ว และจะโทรแจ้งเรื่องนี้กับนักแสดงด้วยตัวเอง เนื่องจากไม่อยากให้นักแสดงเสียความรู้สึกจากการรับทราบเรื่องนี้จากข่าว

แต่ในช่วงดึกของวันเดียวกันก็มีการนำเสนอข่าวว่า พีดีแจ้งว่าเรื่องการยุติการออกอากาศยังไม่ได้รับการยืนยัน และขอเข้าที่ประชุมในตอนเช้าของวันที่ 26 ก่อนจึงจะมีการแถลงการณ์อย่างเป็นทางการอีกครั้ง

หลังจากเกิดเหตุการณ์ลุกลามมากมาย ทางบริษัท Tencent ผู้ให้บริการสตรีมมิ่งและทำซับไตเติ้ลอย่าง WeTV ก็ได้ทำการลบซีรีส์เรื่องนี้ที่มีอยู่ 2 อีพีด้วยกันออกจากระบบเป็นที่เรียบร้อย ทำให้ไม่สามารถดูย้อนหลังได้อีก หากคุณเปิดเข้าไปดูจะขึ้นข้อความว่า “ทางเรายังไม่ได้รับลิขสิทธิ์วิดีโอ เรากำลังมุ่งมั่นต่อสู้เพื่อคุณอยู่

ในช่วงเช้าของวันที่ 26 มีนาคม SBS ได้แสดงความรับผิดชอบด้วยการออกแถลงการณ์ขอโทษและรับผิดชอบด้วยการยุติการออกอากาศ Joseon Exorcist เป็นที่เรียบร้อย

ล่าสุด 3 บริษัทผู้ผลิตประกอบด้วยบริษัท Crave Works, YG Studioplex และ Lotte Cultureworks ได้ออกแถลงการณ์ขอโทษแล้ว

ก่อนหน้านี้ประเทศจีนกับเกาหลีกำลังมีเรื่องกันในเรื่องเคลมประวัติศาสตร์ของตัวเองกันมาหลายยกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเครื่องแต่งกายที่มีกล่าวอ้างว่า ชุดฮั่นฝูในซีรีส์จีนเลียนแบบชุดฮันบกในซีรีส์เกาหลี ลุกลามบานปลายไปจนถึงเรื่องอาหารที่จีนกล่าวอ้างว่า “กิมจิ” และ “ซัม” (อาหารประเภทห่อผัก) เป็นอาหารดั่งเดิมของจีน ไม่ใช่ของเกาหลี และเรื่องอื่นๆ อีกมากมาย

นอกจากนี้ยังมีเรื่องราวให้เป็นประเด็นไม่เลิก ตัวอย่างเช่น เครื่องแต่งกายในซีรีส์ River Where The Moon Rises ที่มีความคล้ายคลึงชุดฮั่นฝูของจีน และพอมาในซีรีส์เรื่อง Joseon Exorcist ยิ่งมีความเหมือนทั้งทรงผมและเครื่องแต่งกาย กลายเป็นอีกดราม่าที่ทำให้เกิดเรื่องราวสำคัญดังกล่าวด้วย

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น