ก่อนอื่นขอแสดงความยินดีกับ ปรมาจารย์ลัทธิมาร อีกครั้งค่ะ ที่นอกจากจะเป็นซีรีส์ที่ทำให้ Tencent เติบโตถึง 250% จากซีรีส์เรื่องนี้แค่เรื่องเดียวแล้ว จนถึงปัจจุบันยังมียอดการรับชมใน แอป Tencent มากกว่า 8 พันล้านครั้ง ไม่นับรวม WeTV ของประเทศต่าง ๆ ด้วยนะ และได้ข่าวว่าผู้ที่เข้ากูซูหลังสุดอย่างญี่ปุ่น ถึงกับปล่อย Blu-Ray ออกมาวางจำหน่ายกันด้วย
ซีรีส์ดำเนินไปในลักษณะตัวเอกคู่ เล่าเรื่องราวของ เว่ยอิง หรือ เว่ยอู๋เซียน (เซียวจ้าน 肖战 ) จากตระกูลเจียง แห่ง อวิ๋นเมิ่ง หนุ่มรูปงาม ยอดอัจฉริยะและจิตใจดี กับ หลานจ้าน หรือ หลานวั่งจี (หวังอี้ป๋อ 王一博) จากตระกูลหลาน แห่ง กูซู หนุ่มรูปงามที่แสนเย็นชาและเคร่งครัดกฎระเบียบ เป็นคู่หูตระกูลเซียน ที่มีปณิธานเดียวกันตั้งแต่รุ่นหนุ่มคือ “กำจัดคนชั่ว ช่วยเหลือผู้อ่อนแอ ไร้เรื่องละอายใจ”
เขาถูกใส่ร้ายและต้องพบกับเรื่องราวที่ทำให้ บุรุษหนุ่มต้องจบชีวิตตัวเองอย่างระทมทุกข์ที่ ปู่เย่เทียน สร้างความเสียอกเสียใจให้ หลานจ้าน เป็นอย่างมาก 16 ปีผ่านไป (ตามไทม์ไลน์ซีรีส์) โม่เสวียนอี่ ใช้อาคมสละชีพแลกวิญญาณกับ เว่ยอิง ให้ฟื้นคืนชีพเพื่อมาแก้แค้นและไขปมปริศนา การรอคอยสหายสนิทเป็นเวลาสิบกว่าปีของหลานจ้าน ก็สมหวัง สองคนจับมือกันร่วมแก้ไขสถาณการณ์ต่าง ๆ ปมปริศนาฆาตกรรมคลายออก คนร้ายตัวจริงถูกเปิดเผย จบจ้ะ …จริง ๆ แล้วเนื้อหามันก็คือ ซีรีส์กำลังภายในท่องยุทธจักร มีฝ่ายธรรมะลวงโลกและฝ่ายอธรรมจำเป็น แต่ทำไมซีรีส์เรื่องนี้ถึงดังเปรี้ยงจนทำเอาเด็กหนุ่มสองคนเป็นที่รู้จักทั่วเอเชียในพริบตา
ความงามของบทโทรทัศน์
เมื่อนำนิยายมาทำเป็นละครโทรทัศน์ แน่นอนว่าการเขียนบทให้ถ่ายทอดออกมาได้กินใจผู้ชมและไม่กระทบกับบทประพันธ์ไม่ใช่เรื่องง่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าละครเรื่องนั้นนำมาจากนิยาย Boy Love ที่โด่งดัง มิหนำซ้ำประเทศผู้ผลิตยังไม่เปิดกว้างให้ทำออกมาอย่างเสรี บทที่เขียนออกมาจึงมีการบิดบทประพันธ์ให้เป็นไปในทางท่องยุทธจักรของสองเพื่อนซี้ มีการตัดทอนความเป็น Y ออกไปและแทนที่ด้วยมิตรภาพแน่นแฟ้น แบบฉบับลูกผู้ชายที่เพียงมองตาก็รู้ใจ และข้อจำกัดที่ว่าก็นำไปถึงการสร้างงานศิลปะชั้นละเมียดด้านอื่น ๆ
เมื่อเราต้องอยู่ในกรอบเราก็ต้องสวยที่สุด เหมือนภาพวาดสวยงามที่ศิลปินสร้างขึ้นจริงไหมคะ บทจึงมีการปูความสัมพันธ์หลากหลายรูปแบบ นำเสนอมุมมองความรักในหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ในครอบครัวของแต่ละตระกูล มิตรภาพที่เป็นรักแท้แบบไม่มีอะไรกั้น (แต่ไม่หยุด) ของเว่ยอิงและหลานจ้านที่ต่างคนต่างเชื่อในความดีซึ่งกันและกัน โดยยึดถือคุณธรรมเป็นหลักและไม่ทรยศต่อตนเอง นอกจากนี้ยังผูกปมต่าง ๆ ได้แน่นขนัด ดราม่ากันกระจัดกระจายน้ำตาท่วมจอ (ผู้รีวิวเสียน้ำตาให้กับตระกูลเจียงไป 2 ไห)
ตัวละครทุกตัวมีเหตุและผลของการกระทำที่เป็นไปได้ ไม่มีการกระทำของตัวละครตัวไหนไร้เหตุผล ทุกคนมีบทบาทความสำคัญที่จะโยงใยไปถึงเหตุอันน่าจะเป็นภายในเรื่อง ที่จะเปิดเผยที่มาที่ไปของตัวละครตัวอื่นในฉากต่อ ๆ ไป จนถึงกับเรียกได้ว่าเราจะข้ามซีนไหนไปไม่ได้เลย
ศิลปะแห่งการสื่อสาร
ชมจริงจังกับการถ่ายทอดในซีนต่าง ๆ ของผู้กำกับ การแสดงออกทางสีหน้า ท่าทางและแววตาของตัวละครอยู่ในขั้นละเมียด กลมกลืน เป็นศิลปะการนำเสนอที่หลีกเลี่ยงความ Y ไปอย่างไร้ข้อกังขา แปรเปลี่ยนเป็นมิตรภาพความรักระหว่างสหาย เล่นแร่แปรธาตุจาก Y กลายเป็นความสัมพันธ์ละมุนละม่อมจนเราเผลอยิ้มให้กับมิตรภาพที่อยู่ตรงหน้าบ่อย ๆ เป็นการใช้ภาษากายที่สุภาพและสื่อความหมายทางอ้อมได้อย่างไม่ขัดสายตา ติดใจมากกับฉากหลานจ้านบรรเลงกู่ฉินและเว่ยอิงเป่าขลุ่ย ช่วยกันสะกดวิญญาณดาบ สายตาที่ส่งให้กันมันซ่อนความหมายเอาไว้อย่างพรั่งพรู
ศิลปะของการเผยแพร่วัฒนธรรม
เรื่องนี้กล่าวถึงจีนโบราณ อุปโลกขึ้นมาให้เป็นยุคที่มีเซียนขี่กระบี่ เซียนในที่นี้คือคนที่ฝึกวิชาจนเป็นมนุษย์พิเศษที่สามารถปราบภูตผี เขียนยันต์ มีลมปราณขั้นสูงสุดที่เรียกว่า จินตาน ขับเคลื่อนพลังวิญญาณ ใช้กระบี่และเครื่องดนตรีคือ กู่ฉิน 7 สายและขลุ่ยในการต่อสู้ เป็นการนำความเชื่อเดิมของจีนโบราณที่เชื่อว่าการฟังหรือบรรเลง กู่ฉิน จะสามารถเข้าไปสัมผัสในส่วนจิตของผู้ฟัง มากกว่านั้นยังสามารถรักษาและทำลายได้แบบต่างกรรมต่างวาระ คือจะใช้มันเพื่ออะไรก็บิดไปได้ตามสันดาน
ในซีรีส์จีนโบราณเรื่องอื่น ๆ อย่าง มังกรหยก ของ กิมย้ง เราจะเห็นฉินเป็นตัวทำลายล้างซะมากกว่า แต่ปรมาจารย์ลัทธิมารสามารถทำให้เราเห็นอีกด้านของฉินที่หลานจ้านบรรเลงบทเพลงชิงซิน (ชำระใจ) เพื่อรักษาอาการเจ็บป่วยหรือสงบจิต แม้กระทั้ง ขลุ่ย ที่เว่ยอิงใช้ ก็ยังเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวตนถึงความเรียบง่ายของตัวละครตัวนี้ได้อย่างตรงไปตรงมา ถือเป็นการเผยแพร่วัฒนธรรมจีนออกสู่สายตาชาวโลกได้อย่างแยบยล
ความงดงามของอุปกรณ์ประกอบฉาก
ถือเป็นแง่งามอีกมุมหนึ่งที่ขอใช้คำว่า งามหยดย้อย การดูเบื้องหลังการถ่ายทำของซีรีส์เรื่องนี้ ในส่วนของอุปกรณ์ประกอบฉากทำให้เกิดความรู้สึกอิ่มสุข นี่เรากำลังดูการสร้างสรรค์งานศิลปะอยู่ชัด ๆ ไม่เสียแรงที่ประเทศจีน เป็นประเทศอันดับต้น ๆ ของวงการศิลปะโลก และซีรีส์เรื่องนี้ทำให้เราประจักษ์ได้ว่าคำกล่าวนั้นไม่เคยเกินจริง
การลงลึกของเพลงประกอบ
เพลงประกอบภาพยนตร์ เพลงประกอบละครต่าง ๆ แน่นอนว่าจะบอกเล่าเรื่องราวนั้น ๆ ให้ครอบคลุมเนื้อเรื่อง หรือเจาะเข้าไปกลางใจของตัวแสดงเอก แต่ปรมาจารย์ลัทธิมารทำให้เพลงประกอบมีความหมายลึกซึ้งมากขึ้นไปอีก เพราะนอกจากจะมีเพลง อู๋จี ที่เป็น Theme Song ของเรื่องแล้ว ยังแยกย่อยเป็นเพลง Character Song อธิบายความรู้สึกภายในใจของตัวแสดงหลักทุกตัวเอาไว้อีกด้วย เรียกว่าดูซีรีส์จบแล้ว มาฟังเพลง แปลความหมายก็จะทำให้เราเข้าใจบริบทต่าง ๆ ของตัวละครได้มากขึ้นไปอีก ดูซีรีส์ว่าน้ำตาท่วมแล้ว ฟังเพลง อ่านความหมายก็ร้องไห้เหมือนหมามากกว่าเดิม
การต่อยอดที่ไม่ยอมให้มูฟออน
เป็นที่ทราบกันดีของแฟนซีรีส์นะคะ ว่าปรมาจารย์ลัทธิมาร มีอะไรให้ดูมากกว่าซีรีส์ที่จบไปแล้ว โดยการสร้างภาคแยกออกมาเป็นรูปแบบภาพยนตร์ ความยาว 1ชั่วโมง 20 นาที คือ ภาคลมหายใจขุนพลผี (The living dead) เล่าเรื่องราวของ เวินหนิง (อวี๋ปิน 于斌) ขุนพลผีคู่กาย เว่ยอิง ที่หลังจากเสร็จภารกิจแล้วก็ควงคู่ หลานซือจุย (เจิ้งฝานซิง 郑繁星 ) หรือ อาเยวี่ยน ที่สำเร็จวิชาจากกูซูยูนิเวอร์ซิตี้แล้ว ก็ออกไปทำงานตรงสายเลยทีเดียว คือกำจัดภูติผี จริง ๆ เขาจะไปทำภารกิจบางอย่างด้วยกัน แต่ระหว่างทางดันเจอกับอำนาจของเหล็กทมิฬเสียก่อน ก็ได้เวลาลองวิชาที่ตนเองเรียนมา สู้กันตูมตามแบบครึ่งคนครึ่งผี กับ เซียนน้อยเจ้าปัญญา
สุดท้ายคือความงดงามของตัวละคร
ซีรีส์เรื่องนี้แคสต์นักแสดงได้ถูกใจประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะนักแสดงหลักอย่าง เซียวจ้าน ที่คาแร็กเตอร์ของ เว่ยอิง ทำให้นึกถึง เล่งฮู้ชง ใน กระบี่เย้ยยุทธจักร เอามาก ๆ เด็กกำพร้าที่ งักปุ๊กคุ้ง เจ้าสำนักหัวซาน เก็บมาเลี้ยง ฉลาด ช่างพูด ชอบเฮฮา ร่ำสุราเป็นอาจิน มันแวบขึ้นมาเลยแล้วก็ไม่ทันจะขาดคำ เซียวจ้าน ก็ไปโผล่ในโฆษณาเกมกระบี่เย้ยยุทธจักรกันซะแล้ว ก็แสดงว่าซีรีส์เรื่องนี้อาจมีแรงบันดาลใจมาจากนิยายกำลังภายในของ กิมย้ง อยู่ไม่น้อย เพราะหลาย ๆ อย่างมันสะกิดต่อมให้นึกถึงอยู่เป็นระยะ ๆ ทั้งคาแร็กเตอร์ของ หลานจ้าน ที่หวังอี้ป๋อรับหน้าที่นี้ไป ก็ไปคล้ายกับ เซียวเหล่งนึ่ง สตรีที่งดงามปานเทพธิดา สงบเยือกเย็น บริสุทธิ์ดังหิมะ และเย็นชาราวน้ำแข็ง จากมังกรหยก (มันเหมือนจริง ๆ นะ)
0 ความคิดเห็น