สวัสดีกลับมาพบกันอีกครั้งแล้ว สำหรับการรีวิวซีรี่ย์ที่สร้างจากเว็บตูนชื่อดังยอดฮิตอย่างเรื่อง 'ปรมาจารย์ลัทธิมาร' ที่ถึงแม้ว่าซีรี่ย์จบไปนานเป็นปีแล้ว แต่ก็ยังคงมีหลาย ๆ คนที่ยังติดตามรับชมดูอยู่เรื่อยๆ บางคนอาจจะวนดูแล้วดูอีกไม่สามารถออกจากเรื่องนี้ไปได้จริงๆ ซึ่งนั่นก็รวมถึงตัวผู้รีวิวด้วย ที่วนดูหลายรอบจนแทบจะจำบทพูดของแต่ละตัวละครได้แล้ว และยังเป็นซีรี่ย์ที่ยังฮิตติดอันดับทั้งในประเทศจีนและประเทศไทยอย่างเราด้วยเช่นกัน ซึ่งกระแสฮอตฮิตติดเทรนของซีรี่ย์เรื่องนี้จึงส่งผลให้มีการทำภาพยนตร์ภาคต่อของซีรี่ย์ปรมาจารย์ลัทธิมารที่มีชื่อว่า "The Untamed The Living Dead" หรือ ปรมาจารย์ลัทธิมาร ภาคลมหายใจขุนพลผี
ภาพยนตร์อีกเรื่องที่สร้างต่อจากซีรี่ย์ปรมาจารย์ลัทธิมารเหมือนกัน ชื่อเรื่องว่า 'ปรมาจารย์ลัทธิมาร ภาควิญญาณอาฆาตแห่งชิงเหอ The Untamed Fatal Journey' ซึ่งเป็ภาคที่สร้างต่อจากภาคลมหายใจของขุนพลผี ที่กำลังรีวิวอยู่นี้ ส่วนภาคลมหายใจของขุนพลผี ดูภาพยนตร์เรื่องนี้ไปแล้วถึง 2 รอบ ซึ่งบอกเลยว่าสนุกมาก ๆ จึงอยากมารีวิวกับแนะนำเพื่อนๆ คอซีรี่ย์และภาพยนตร์จีนทุกท่านได้ลองไปหาชมดู
โดยภาคนี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อจากภาคแรก หลังจากที่ช่วยเว่ยอิงปราบคนชั่วได้สำเร็จ 'เวินหนิง' หรือ 'ขุนพลผี' ก็ออกเดินทางเพื่อปราบคนชั่วช่วยคนดีเพียงคนเดียวโดยไม่มีเว่ยอิงเคียงข้าง จนได้เดินทางเข้าไปใน เมืองฝูเฟิง ซึ่งเป็นเมืองที่มีเรื่องราวลึกลับเกิดขึ้นและเป็นเมืองที่ดูร้างมากแต่ก็ยังมีผู้คนอาศัยอยู่บ้าง แต่ในตอนกลางคืนเมืองนี้มีกฎอยู่ข้อหนึ่งคือห้ามจุดไฟเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นจะถูกดูดวิญญาณ ทำให้เวินหนิงไม่อาจอยู่เฉยได้จึงต้องสืบหาความจริงเรื่องราว และนั่นทำให้เขาได้เจอกับหลานชายอย่าง 'หลานซือจุย' เซียนจากตระกูลหลานอีกครั้ง ทั้งสองจึงได้ร่วมต่อสู้กับปีศาจร้ายและสืบหาความจริงต่าง ๆ ของเรื่องราวลึกลับทั้งหมดภายในเมืองนี้ไปด้วยกัน ทำให้ได้รู้ว่าสาเหตุทั้งหมดมาจาก ตระกูลเซียว ตระกูลเศรษฐีของเมืองนี้นั่นเองและเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นยังเชื่อมโยงกับ 'ตราพยัคฆ์ทมิฬ' ที่ถูกทำลายไปแล้วอีกด้วย
รีวิวภาพรวมทั้งหมดหลังจากที่ดูจบ ภาคนี้เราได้เห็นตัวละครที่ดูโตขึ้นและแข็งแกร่งขึ้นมากหากจะเปรียบเทียบจากซีรี่ย์ เพราะเวินหนิงสามารถคิดเองตัดสินใจอะไรเองได้มากกว่าตอนที่อยู่กับเว่ยอิง แถมยังฉลาดมากขึ้นอีกด้วย โดยส่วนตัวชอบที่นำเอาโซ่ที่เคยใช้ล่ามในซีรี่ย์มาใช้เป็นอาวุธในภาคนี้ แล้วก็ได้นำเคล็ดวิชาต่างๆ ของเว่ยอิงมาใช้เองอีกด้วย ในส่วนของซือจุยเองก็ดูโตขึ้นสามารถเอาตัวรอดคนเดียวได้โดยไม่ต้องมีเดอะแก๊งค์เหมือนในซีรี่ย์ มีการนำฉินของตัวเองมาใช้ในการต่อสู้เพิ่มขึ้น และยังเก่งมากอีกด้วยทำให้เขาดูโตขึ้นมากจากซีรี่ย์ คงเป็นเพราะเรื่องราวในภาพยนตร์ภาคต่อเรื่องนี้เหตุการณ์น่าจะเกิดหลังจากซีรีย์หลายปีอยู่เลยทำให้ทั้งคู่ดูโตขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะขุนพลผีของเราในภาคนี้หล่อและเท่ขึ้นมากกว่าเดิมอีก
ในส่วนภาพและCGก็ถือว่าทำออกมาได้ดีพอสมควร ถึงแม้จะมีจุดที่ดูไม่เหมือนจริงไปบ้าง แต่ก็พอให้อภัยได้เพราะเนื้อเรื่องสนุกและเข้มข้นน่าติดตามไม่แพ้ซีรีส์เลย แต่ความจริงอยากให้ภาคต่อเป็นซีรีส์มากว่าสัก 10 ตอนก็ยังดี ( ความเห็นส่วนตัวของคนที่ตัดใจจากปรมาจารย์ลัทธิมารไม่ลงซักที ) โดยการขยายเนื้อเรื่องเพิ่มขึ้นอีกนิดเพราะเราชอบนักแสดงของปรมาจารย์ลัทธิมารทุกคน ฝีมือการแสดง การสื่ออารมณ์ต่างๆ ถือว่าเก่งมากๆ เพราะงี้เราถึงติดอยู่แต่เรื่องนี้วนดูไม่จบไม่สิ้นสักที
0 ความคิดเห็น